Pigment Dyes (สีพิกเม้นต์)
สีพิกเม้นต์เป็นสีที่ไม่ละลายน้ำและไม่ซึมเข้าเส้นใยผ้า จึงต้องใช้ไบเดอร์เป็นตัวช่วยยึดติด โดยแบ่งประเภทตามลักษณะแป้งพิมพ์เป็น แป้งจม แป้งยาง แป้งลอย และแป้งนูน ซึ่งแต่ละชนิดให้ลักษณะพื้นผิวและความยืดหยุ่นที่แตกต่างกัน
สีพิกเม้นต์เป็นสีที่ไม่ละลายน้ำและไม่ซึมเข้าเส้นใยผ้า จึงต้องใช้ไบเดอร์เป็นตัวช่วยยึดติด โดยแบ่งประเภทตามลักษณะแป้งพิมพ์เป็น แป้งจม แป้งยาง แป้งลอย และแป้งนูน ซึ่งแต่ละชนิดให้ลักษณะพื้นผิวและความยืดหยุ่นที่แตกต่างกัน
สีพิกเม้นต์เป็นสีที่ไม่ละลายน้ำ สีจะกระจายตัวอยู่ในน้ำ สีไม่รวมกับน้ำ สีที่พิมพ์จะเกาะเส้นใยไว้เท่านั้นไม่ซึมเข้าสู่เส้นใยของผ้า ดังนั้นสีพิมพ์ประเภทนี้จึงต้องมีสารมาช่วยในการยึดติด นั่นก็คือ
การเตรียมแป้งพิมพ์จึงต้องมี ไบเดอร์และสีพิกเม้นท์เป็นองค์ประกอบหลัก สีพิกเม้นท์ยังมีการแบ่งย่อยออกมาอีกตามลักษณะของแป้งพิมพ์ เช่น
เมื่อพิมพ์แล้วเนื้อสีจะแทรกอยู่ระหว่างเส้นใยผ้า
เนื้อสีจะมีลักษณะเป็นฟิล์มเงายืดหยุ่นได้ ลอยตัวอยู่บนผิวผ้า
เนื้อสีจะลอยตัวบนผ้าสีเข้มได้ดี พื้นผิวด้านไม่มีความเงา การยืดหยุ่นมีน้อยมากหรืออาจจะไม่มีเลย
เนื้อสีจะฟูตัวได้เมื่อใช้ความร้อนอบหรือรีด ทำให้ดูมีเนื้อหนาขึ้น พื้นผิวจะด้านไม่เงางามความยืดหยุ่นมีเพียงเล็กน้อย
สีพิกเม้นท์ได้ใช้ในการผ้าชิ้นและผ้าหลากันเป็นส่วนใหญ่ สำหรับงานผ้าชิ้นยังได้แบ่งชนิดของสีตามเคมีที่เตรียมขึ้นมา ดังนี้
หมายถึง แป้งพิมพ์ที่เตรียมขึ้นมาโดยใช้เคมีที่มีฐานน้ำ โดยมีทั้งแป้งจม แป้งยาง แป้งลอย และแป้งนูน เป็นต้น เป็นสีที่นิยมในการพิมพ์ตรง สำหรับเคมีฐานน้ำที่ใช้ในการพิมพ์เราจะเรียกว่า สีระเหิด (Sublimation) ทางร้านใช้สีนี้ โดยมีเฉดดังนี้ ดำ น้ำเงิน เหลืองทอง กรมท่า เขียว ส้ม ชมพู บานเย็น ฟ้า เหลืองอ่อน น้ำตาล เลือดหมู ม่วง และ แดง
หมายถึง สีพิมพ์ที่เตรียมขึ้นมาโดยใช้เคมีที่มีฐานน้ำมันที่มีพลาสติกเป็นองค์ประกอบ ร่วม แป้งพิมพ์ของพลาสติซอล เรียกว่า Extender Base มีลักษณะดูเหมือน จม ลอย ยืดหยุ่น และนูน ได้เหมือนกับเคมีฐานน้ำ เป็นสีที่ใช้ในงานพิมพ์ตรงและพิมพ์อ้อม
หมายถึง สีที่เตรียมขึ้นมาจากเคมีฐานน้ำมัน เรียกว่าสีน้ำมัน ใช้พิมพ์ผ้าที่ต้องการการยึดเกาะสูง เช่น ผ้าร่ม ผ้ากระเป๋า เป็นต้น