การใช้งานแป้งจม แป้งลอย แป้งยาง แป้งนูน ในงานสกรีนผ้าแบบสรุป
การสกรีนผ้าเป็นกระบวนการที่นำภาพหรือข้อความไปพิมพ์ลงบนผ้า โดยใช้แป้งสกรีนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างลวดลายที่ต้องการ แป้งสกรีนมีหลายประเภทที่ใช้แตกต่างกันไปตามลักษณะและความต้องการของงาน ซึ่งหลักๆ จะมี แป้งจม, แป้งลอย,แป้งยาง และแป้งนูน แต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะและการใช้งานที่แตกต่างกันไป
แป้งจม ลักษณะ แป้งจมจะซึมลงไปในเนื้อผ้า ทำให้ลวดลายมีความคมชัดและดูเป็นส่วนหนึ่งของผ้าโดยไม่รู้สึกถึงความหนาหรือยกนูน
การใช้งาน
– เหมาะสำหรับการพิมพ์ลวดลายที่ต้องการความละเอียดสูง
– นิยมใช้กับผ้าบางๆ เช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าบางที่ต้องการให้ลวดลายดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดี
– ให้ความคมชัดของลวดลาย
– สัมผัสนุ่ม ไม่ทำให้ผ้าแข็ง
แป้งลอย ลักษณะ แป้งลอยจะมีลักษณะเป็นชั้นหนาอยู่บนพื้นผิวผ้า ทำให้ลวดลายดูนูนและมีมิติ
การใช้งาน
-ใช้ในการสร้างลวดลายที่ต้องการให้เด่นชัดและมีมิติเพิ่มขึ้น
– นิยมใช้กับผ้าหนาหรือผ้าที่ต้องการลวดลายที่ดึงดูดสายตา
ข้อดี
– ลวดลายดูเด่นชัดและมีมิติ
– สร้างความแตกต่างในงานออกแบบ
แป้งยาง ลักษณะ แป้งยางมีความยืดหยุ่นสูง สามารถยืดตามการยืดของผ้าได้ ทำให้ลวดลายไม่แตกหรือหลุดลอก
การใช้งาน
– เหมาะสำหรับผ้ายืด เช่น ผ้ายืดใส่สบายหรือเสื้อผ้าออกกำลังกาย
– ใช้ในการพิมพ์ลวดลายที่ต้องการความทนทานและยืดหยุ่นสูง
ข้อดี
– ลวดลายทนทาน ไม่หลุดลอกง่าย
– มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับผ้ายืด
แป้งนูน การสกรีนเพื่อสร้างลวดลายที่นูนจากพื้นผิวของวัสดุ เช่น เสื้อผ้า หมวก และกระเป๋า
– เทคนิคนี้นิยมใช้ในแฟชั่นและสินค้าโปรโมท เพื่อเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจและลวดลายที่ได้ให้มีความนูนและคมชัด
ข้อดี
– เพิ่มความโดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์
– ให้สัมผัสที่แตกต่างเมื่อสัมผัส
– สามารถสร้างลวดลายได้หลากหลาย
การใช้แป้งนูนช่วยให้การออกแบบมีมิติและความน่าสนใจในอุตสาหกรรมแฟชั่นและสินค้าโปรโมท